หน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์....ไร่ละ 2 แสนเลยนะ

  เขียนด้วยประสบการณ์และการลงแปลงจริงและศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ จนแปลงเราได้รับใบเซอร์  ออแกนิค (ORGANIC AGRICULTURE ) เราคือผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้ทำแปลงเกษตรอินทรีย์และผลผลิตอินทรีย์     
    
พร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาของเกษตรกรที่มีปัญหาทุกๆท่านในการทำเกษตรทุกแขนง

                 หน่อไม้ฝรั่ง หรือ "แอสพารากัส" ( Asparagus )

หน่อไม้ฝรั่ง หรือ พืชมหัศจรรย์ เป็นพืชพื้นเมืองแถบยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นพืชที่สร้างความร่ำรวย สร้างฐานะ ความมั่งคั่งให้กับหลายๆๆ คนมาแล้ว จากอดีตถึงปัจจุบัน ปลดหนี้ ปลดสิน สร้างอาชีพที่มั่นคง มีบ้าน มีรถ มีที่ดิน มีครอบครัวที่มีความสุข และยังมีคุณค่าทางอาหาร มีประโยชน์ต่อร่างกาย

สารอาหารที่พบในหน่อไม้ฝรั่ง มีทั้งโปรตีน แร่ธาตุต่างๆ เช่นสังกะสี,ทองแดง,ฟอสฟอรัส,โฟแทสเซียม,เซเรเนี่ยม,โพลิตินั่ม และมีกากใยมาก และยังมีวิตามินเช่น วิตามินซี,วิตามินบี(บี1,บี2,บี3,บี6) วิตามินเค,วิตามินเอ โฟเลต และมีสารกลูตาไธโอน มีปริมาณเกลือต่ำ ไม่มีไขมัน หรือโคเลสเตอรอล และยังมีผู้นำไปใช้ในการลดน้ำหนักและเหมาะกับผู้ที่เป็นเบาหวาน เพราะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรต,แคลลอรี่ และไขมันต่ำ และขับปัสสาวะ และลดกรดในลำใส้
และบำรุงผิวพรรณ

พันธุ์หน่อไม้ฝรั่ง ที่ใช้ปลูกในประเทศไทย ในอดีตถึงปัจจุบัน มีด้วยกัน 8 สายพันธุ์

         1.แมรี่วอชิงตัน เป็นพันธุ์แรกที่เข้ามาปลูกในประเทศไทย
         2.แคลิฟอเนีย309
         3.แคลิฟอเนีย500
         4.ยูซี157
         5.บร๊อดอิมบรุ๊พ
         6.อพอลโล
         7.บร๊อดอิมพีเรียล
         8.แอทลาส(เป็นพันธุ์ที่ไม่ทนโรค)
แต่ที่นิยมปลูกกันมากคือพันธุ์บร๊อดอิมบรุ๊พ


โรคระบาดโรคเชื้อราที่สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
โรคของหน่อไม้ฝรั่ง ที่ระบาดและสร้างความเสียหายกับผู้ปลูก
        1.โรคต้นไหม้(Stem Blight)

 เกิดจากเชื้อรา Phomopsis Asparagi    (Sacc.)
การระบาดเกิดจากอากาศที่มีความชื้นสูง ในช่วงฤดูฝน และมีน้ำหมอกเยอะ โดยสปอร์จะปลิวไปกับน้ำและลม โดยระบบสปิงเกอร์จะระบาดได้ทุกช่วงระยะการเจริญเติบโต      

การรักษา:ใช้ ฟอสโฟ 10 cc.+ ซิลิเกต 1 ช้อนชา + นำทาง 2 cc. ฉีดพ่นหลังฝนหยุดตกหรือฟ้าเปิด และฉีดซ้ำอีกใน 3 วัน สลับกับ ชาร์ปเลท 30 cc.+ ซิลิเกต 1 ช้อนชา + นำทาง 2 cc.





         โรคกิ่งไหม้หรือใบเทียมร่วง     (Cercospora Leaf Blight)

หรือโรคเซอโคสปอร่าไบลท



             สาเหตุเกิดจากเชื้อ Cercospora asparagi Csall)

การระบาด จากอากาศมีความชื้นสูง โดยสปอร์จะปลิวไปกับน้ำและระบบสปริงเกอร์ จะระบาดได้ทุกช่วงระยะการเจริญเติบโต

          การรักษา : ใช้ ฟอสโฟ 10 cc.+ ซิลิเกต 1 ช้อนชา + นำทาง 2 cc. ฉีดหลังฝนหยุดตก หรือท้องฟ้าเปิด โดยฉีดสลับกับ ชาร์ปเลท 30 cc.+ ซิลิเกต 1 ช้อนชา + นำทาง 2 cc. ห่างกัน 3 วัน

                        3.โรคแอนแทรคโนส(Anthracnose)

ลำต้นมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล

การระบาดมีในอากาศมีความชื้นสูง โดยสปอร์จะปลิวไปกับน้ำและลม โดยเฉพาะระบบสปิงเกอร์จะมีการระบาดทุกช่วงระยะการเจริญเติบโต                                                                           การรักษา: ใช้ ฟอสโฟ 10 cc.+ ซิลิเกต 1 ช้อนชา + นำทาง 2 cc. ฉีดสลับกับ   ชาร์ปเลท 30 cc.+ ซิลิเกต 1 ช้อนชา +นำทาง2 cc.

                4.โรคเน่าเปียก(Wet rot)

เกิดจากเชื้อรา Choanephora sp. การระบาดมีในอากาศที่มีความชื้นสูง โดยสปอร์จะปลิวไปกับน้ำและลม โดยเฉพาะระบบสปิงเกอร์จะมีการระบาดทุกช่วงระยะการเจริญเติบโต

การรักษา : ใช้ ฟอสโฟ 10 cc. + ซิลิเกต 1 ช้อนชา + นำทาง 2 cc. ฉีดสลับกับ  ชาร์ปเลท 30 cc.+ ซิลิเกต 1 ช้อนชา 1+ นำทาง 2cc. ห่างกัน 3 วัน
                                



การระบาดในช่วงหน้าฝนหรือมีความชื้นสูงก็มีการระบาดของโรคหน่อเน่าด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันโดยการ( บล็อกเชื้อ )  โดยใช้ Vee-1  โดยโรยบางๆ รอบโคนต้น

  การปลูกหน่อไม้ฝรั่งในพื้นที่มีด้วยกัน 2 อย่างคือ;
 
1. แบบแถวเดี่ยว
 


                                      การปลูกแบบแถวเดี่ยว

การปลูกแบบแถวเดี่ยวจะเป็นที่นิยมเพราะจะเก็บได้ง่ายและจะให้ผลผลิตสูง มีอายุแปลงยาวนาน

 2.แบบแถวคู่

การปลูกแถวคู่

การปลูกแถวคู่ จะปลูกกันเพราะจะทำการยกร่องให้มีความสูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง เพราะหน่อไม้ฝรั่งต้องการน้ำแบบชื้น แต่ไม่แฉะ เมื่อดินแฉะน้ำขังจะทำให้เกิดโรคและไม่ออกหน่อ
    การขยายพันธุ์มีด้วยกัน 2 แบบคือ;
 1.การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
     การเพาะเมล็ดหน่อไม้ฝรั่งในปัจจุบันประสบปัญหาการงอกต่ำ เราจึงมีวิธีที่เราทำแล้วอัตตราการงอกสูงเกือบ 100 % โดยมีแนวการทำดังนี้ ;:
  1.1 ต้มน้ำให้เดือด 1 ส่วน
  1.2 ผสมน้ำเย็น      1 ส่วน
  1.3 นำเมล็ดพันธุ์หน่อไม้ฝรั่งลงแช่ทันที แล้วแช่ทิ้งไว้ 6-8 ชั่วโมง หลังครบแล้ว  ให้ทำการล้างเมล็ดเพื่อนำเปลือกผิวที่ติดเมล็ดออก แล้วเติมน้ำปกติพอท่วมเมล็ด นำ MK               30   cc. 
                                                                           ดีว่า             30    cc.
                                                                           AC-โกรท     5 cc.
แช่ต่ออีก 12-24 ชั่วโมง
  1.4 หลังจากครบชั่วโมงแล้วให้สงเมล็ดขึ้นนำใส่กระสอบป่านนำไปวางในที่ๆ มีความชื้น อย่างเช่น ในห้องน้ำ แต่ต้องไม่ให้น้ำที่อาบกะเด็นถูกกระสอบที่ห่อเมล็ด   หลังจากบ่มไว้ประมาณ 3-5 วัน  เมล็ดก็จะเริ่มปลิดก็ให้นำเมล็ดไปเพาะใน ( มีเดียซึ่งเป็นดินเพาะหน่อไม้ฝรั่งโดยเฉพาะ ของเรา เราคือ MK การเกษตร ผู้คิดค้นให้มีเดียมีธาตุอาหารมีพอและปลดปล่อยธาตุอาหารได้ยาวนานถึง 2 เดือน ซึ่งในมีเดียในท้องตลาดจะมีธาตุอาหารได้ไม่เกิน 21 วันเท่านั้น ) :ซึ่งทำให้การงอกและการเจริญเติบโตดีและไม่ติดเชื้อราเพราะในมีเดียไม่มีส่วนผสมของดิน และระบบรากก็สมบรูณ์ จึงสามารถนำไปปลูกได้ในอายุกล้า 1.5-2 เดือนก็ปลูกได้แล้ว

การนำต้นกล้าหน่อไม้ฝรั่งอายุ 1.5 เดือนลงปลูก
                                                                                                 

 2.การขยายพันธุ์ด้วยเนื้อเยื่อ

เทคนิคการทำหน่อไม้ฝรั่งหลังจากปลูกโดยใช้ต้นกล้าอายุเพียง 1.5-2 เดือน  แล้วปลูกอีก 2.5-3 เดือนได้เก็บผลผลิต
  -ทำการแถกร่องเป็นแนวยาวความลึกประมาณ 20 cm. โดยระหว่างแถวควรห่างกัน 160 cm. ระหว่างต้นควรห่าง 60 cm.

  -ปรับดินโดยการเพิ่มอินทรีย์วัตถุ เช่น แกลบดำ,ฟิวเตอร์เค้กถ่านก้อนเล็กๆ,ก้อนเห็ด,ขุ้ยมะพร้าว,เปลือกถั่ว ฯลฯ

  -รองก้นหลุมด้วยอาหารเข้มข้น(ปุ๋ยขี้เกียจ) :ซึ้งเป็นปุ๋ยคุณภาพสูงที่ใส่แล้วสามารถปลดปล่อยอาหารได้นานเป็นเวลามากกว่า  2  เดือน พร้อมทั้งบล็อกเชื้อราโดยใช้ วี-1 (Vee-1)ซึ้งเป็นสมุนไพรป้องกันยับยั้งและกำจัดกลุ่มเชื้อราและแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในดิน  ไม่ให้มีฤทธิ์ทำลายระบบรากหรือเหง้าของหน่อไม้ฝรั่ง

  -แล้วนำต้นกล้าวางบนปุ๋ยขี้เกียจและวี-1 แล้วกลบดินพอท่วมกอหน่อไม้ฝรั่ง

  -หลังจากหน่อชุดใหม่เริ่มแทงขึ้นมาแล้วใบกางเป็นหางกระรอกให้ทำการถอนต้นเก่าออก เพราะเป็นการกระตุ้นการแตกกอ โดยในช่วงนี้เกษตรกรมีหน้าที่ ถอนต้นเก่าออกและรดน้ำแค่นี้พอ  ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยชนิดใดๆๆ เพราะในปุ๋ยขี้เกียจมีพอแล้ว    (หมายเหตุ ช่วงการปลูกไม่ควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมี เพราะต้นกล้ายังอ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ )

 -หลังจากหน่อมีขนาดประมาณ ดินสอ  ก็ปล่อยเป็นต้นแม่พันธุ์โดยไว้ให้มีช่องไฟ และมีจำนวณต้นประมาณ 3-5 ต้น ส่วนหน่อที่ขึ้นมาใหม่ให้ทำการเก็บขายทั้งหมด และให้เก็บแค่  20-25 วันเท่านั้น แลัวทำการพักต้น เพราะช่วงแรกให้เก็บเพียงแค่นี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเหง้าให้รู้ และป้องกันโครงสร้างโดยรวมไม่ให้โทรม

ขั้นตอนการจัดการแปลงหน่อไม้ฝรั่งหลังจากหยุดเก็บผลผลิต  (ช่วงพักแปลง)
                   
 :ทำการถอนต้นออกจากแปลงให้หมดโดยควรใช้เวลาไม่ให้เกิน 2-3 วัน และนำต้นที่ถอนออกไปทำลายทิ้งไม่ควรนำไปกลบแปลงหรือใช้คุมแปลงในพืชอื่นๆ หรือนำไปไถกลบเพื่อทำปุ๋ยพืชสด เพราะนั้นคือภัยมืดที่จะมาสร้างความเสียหายในแปลง

:ทำการยองดิน โดยยองดินกลบโคนหน่อไม้ฝรั่งให้มีความสูงประมาณ 15 cm. เพราะช่วงที่เก็บเกี่ยวที่ผ่านมาดินบริเวณโคนได้หายและลดระดับความสูงลงจากการถอนหน่อออกมาขายเพราะถ้าโคนลอยหน่อจะไม่ค่อยออกและหน่อจะมีขนาดเล็ก
                                            
 :ทำการใส่แร่ The one 2 กระสอบ ( 50 kg. ) ร่วมกับการบล็อกเชื้อราในดินโดยใส่ Vee-1  1 กระปุก พร้อมหัวอาหารเข้มข้น ( ปุ๋ยขี้เกียจ ) 2 ถุง  ผสมให้เข้ากันแล้วโรยบนดินที่พรวน(หมายเหตุ  ห้ามใส่มลู สัตว์ปีกทุกชนิดเพราะก่อให้เกิดเชื้อรา )

  :ทำการกำจัดหญ้าในแปลงโดยใช้สารอินทรีย์กำจัดหญ้า (ฟู่-1) ฉีดพ่นในอัตตรา 200 cc./ น้ำ 20 ลิตรผสมนำทาง 2 cc.(สารแพร่กระจายพร้อมแซกซึมผ่านผนังเซลล์ ป้องกันการชะล้างและเพื่อประสิทธิ์ภาพของ ฟู่-1 ให้ออกฤทธิ์แรงขึ้น ปลอดภัยกับดินและจุลลินทรีย์และสิ่งแวดล้อม (หมายเหตุ ไม่แนะนำให้ฉีดพ่นด้วยยาเผาไหม้ )
  
  :ทำการล้างดินเพื่อปรับค่า PH ของดินและกระตุ้นให้แร่ที่ใส่ลงไปปลดปล่อยธาตุอาหาร พร้อมสร้างรากหาอาหาร  โดยต้องรดน้ำให้ดินมีความชื้น แล้วฉีดพ่นในอัตตรา 100 ลิตร/ ไร่
   โดยใช้ ซอย-ซายน์ 250 g. คอร์ส 1000 cc. / น้ำ 100 ลิตร ฉีดพ่นลงโคนต้น( ลงดิน )
  
   :ทำการกลบแกลบดิบ หรือ ฟิวเตอร์เค้ก หรือ เปลือกถั่วเขียว

   :ทำการคัดแม่พันธ์ุโดยเลือกขนาดต้น ไซด์ B ให้มีจำนวณ 3-5 ต้น และมีช่องว่างระหว่างต้นเพราะมีผลต่อการออกหน่อในช่วงการเก็บ

   :ทำการขึ้นเชือกเพื่อล็อกต้นป้องกันการคอนและตีวงที่โคนต้นเพราะจะทำให้ไม่ออกหน่อ

  :ช่วงพักต้นแนะนำไม่ให้น้ำบ่อยเหมือนตอนช่วงเก็บหน่อขาย

  :เมื่อเริ่มมีผลผลิตเก็บให้อาหารทางใบโดย ::

       MK              30 cc.  ธาตุอาหารเข้มข้น 16 ธาตุอาหาร
       ดี-ว่า             20 cc.  วัคซีนพืช
       AC-โกรท       3 cc.  สร้างคลอโรฟิลล์  
       พี-รัน              5 cc.  สารสั่งออกหน่อ
       นำทาง           2 cc.   สารแพร่กระจาย

โดยผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุกๆ  7  วัน

การป้องกันกำจัดเชื้อราและโรคของหน่อไม้ฝรั่ง
   ฟอสโฟ    กำจัดกลุ่มเชื้อรา กลุ่มแบคทีเรีย
    ซิลิเกต     สร้างผนังเซลล์ สมานแผล
    ชาร์ปเลท กำจัดเชื้อราและแบคทีเรีย พร้อมกระตุ้นการแตกตาใบและตาดอกชุดใหม่ 

        ภัยมืดกำลังคืบคลานเข้าทำลาย  ผู้ที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง   อย่างเลือดเย็น  ด้วยการกลายพันธุ์ของเชื้อรา  ไฟทอปธอรา  (Phythopthora  mealii) เป็นเชื้อราดินที่จะอาศัยอยู่บริเวณเหง้าของหน่อไม้ฝรั่ง  พัฒนาสายพันธุ์สร้างสปอร์อยู่ข้ามฤูดกาล สามารถว่ายทวนกระแสน้ำและฝังตัวระบาดได้อย่างรวดเร็วในฤดูฝน   สาเหตุสำคัญที่ทำให้เชื้อระบาดและรักษายาก  เกิดจากความไม่เข้าใจของเกษตรกรเอง  การส่งเสริมของผู้ต้องการหน่อไม้ฝรั่งขาดข้อมลูการดูแลและการจัดการที่ดี  หรือผู้เชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำ เพราะหน่อไม้ฝรั่ง ไม่ใช่ข้าวที่คนไทยคุ้นเคยที่บรรพบุรษปลูกกันมา  หน่อไม้ฝรั่งยังเป็นพืชชนิดใหม่อยู่ยังต้องการความเข้าใจดูแลเขา เพราะแต่ละบริษัทหรือผู้ต้องการหน่อไม้ฝรั่ง มีแต่ต้องการหน่อเพียงอย่างเดียว จึงทำให้เกษตรกรผู้ปลุกหน่อไม้ฝรั่ง กระทำการอย่างไรก็ได้ขอให้มีหน่อไม้ฝรั่งเก็บส่งตัวแทน หรือบริษัทที่ต้องการหรือให้ราคาสูง  โดยรู้เท่าไม่ถึงการ  เร่งการใส่ปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆที่มีขายในท้องตลาดซึ่งมีมากมายหลายสูตร แล้วปุ๋ยเคมีสูตรไหนเหล่าเหมาะกับหน่อไม้ฝรั่ง จากการลงแปลงเกษตรกรจึงสามารถรวบรวมสูตรปุ๋ยเคมีที่เกษตรกรว่าเหมาะสมและใช้ดีมีเพียง  4 สูตร 
   
         -ปุ๋ยสูตร  เพื่อนบ้านแนะนำ
         -ปุ๋ยสูตร  ที่สื่อต่างๆ โฆษณา
        -ปุ๋ยสูตร   เถาแก่,ร้านค้า จัดให้                             -ปุ๋ยสูตร   เงินทุนในกระเป๋า  
  และเมื่อได้ปุ๋ยเคมีในสูตรที่คิดว่าเหมาะสมกับแปลงหน่อไม้ฝรั่งของตนเองแล้ว ก็บันเลงใส่แบบไม่คิดชีวิตเหมือนมีโรงงานผลิตปุ๋ยเองได้ใส่เหมือนจะถมที่  ใส่บ่อยโดยไม่รู้ว่าต้นหน่อไม้ฝรั่งจะกินได้ไหม  กินหมดไหม  เวลารดน้ำก็รดจนน้ำนองเหมือนเตรียมจะทำนา  ความพอดีเล่า!อยู่ตรงไหน   หน่อไม้ฝรั่งชอบดินที่มีความชื้นแต่ไม่แฉะ  ค่า PH ความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ที่  6.5  ใครทำค่านี้ได้ โรคเชื้อราจะไม่บังเกิดมี  ด้วยความเป็นห่วง  อย่าปล่อยให้เงินทองหลุดมือไป  ด้วยการร่มสลาย จนกลายเป็นตำนานเล่าขานกัน.........

      สงสัยการทำหน่อไม้ฝรั่ง ติดต่อสอบถาม      เพิ่มเติม   081-046-0335,  เอ็ม                                                                                                   

http://mkfu101.blogspot.com/2014/03/mk.html หน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์โดยบ.เอ็มเคการเกษตร จก.

http://mkfu1.blogspot.com/2013/04/blog-post_24.html มันสำปะหลังอินทรีย์ ตันทำได้จริง

http://www.youtube.com/channel/UCSvI_wRmYf071hzEmH6Ko6w การใช้อุปกรณ์ดายหญ้า(ดิสดาย)

http://mkfu2.blogspot.com/2013/04/119-1190-2-1.html ข้าวอินทรีย์ 119 ถัง ทำได้จริงด้วยเกษตรดินดี

http://mkfu4.blogspot.com/2013/08/blog-post.html อ้อยอินทรีย์ 30 ตัน ต่อไร่่

http://mkfu6.blogspot.com/2014/06/1-6-1.html เผือกอินทรีย์ 6 เดือน 1 ไร่ 100,000.

http://mkfu7.blogspot.com/  มะละกออินทรีย์ สร้างชีวิต สร้างความเป็นไท

http://mkfu8.blogspot.com/  การปลูกดาวเรือง ดาวรวย

http://mkfu10.blogspot.com/2014/08/blog-post.html 

การกระชายอินทรีย์ สร้างเงิน สร้างชีวิต

http://mkfu11.blogspot.com/2014/11/blog-post.html 

ผักอินทรีย์กินแล้ว สุขกาย สบายใจ ...

  การทำเกษตรในปัจจุบัน ในสภาวะที่อากาศเปลี่ยนแปลง ดินฟ้า อากาศ ไม่เอื้ออำนวย ราคาปุ๋ยยามีราคาสูง  ราคาผลผลิตตกต่ำ  

      ดังนั้นต้องปรับเปลี่ยนการทำการเกษตรแบบธรรมชาติจัดสรร ทำเกษตรแบบไร้เงื่อนไข ทำตามภูมิประเทศเอื้ออำนวย

       มีข้อสงสัยการทำแปลงเกษตร ไม่ว่าจะเป็น

     -พืชไร่
               -พืชสวน
                            -พืชผัก
                                     -นาข้าว
                                                  -ไม้ดอกไม้ประดับ

   ปรึกษาเราที่ Tel. 081-046-0335 ,085-603-0090
 เอ็มครับ   (ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำเกษตรที่ท่านเลือกทำอย่างมีความสุข  และสนุกกับพืชที่ปลูก  )

         หมายเหตุ

      ปัจจุบันทางรอดของการทำเกษตร ไม่ใช้ราคาของผลผลิต เพราะราคาผลผลิต เราไม่สามารถกำหนดได้  แต่ที่เรากำหนดได้คือ
          1. ต้นทุนที่ใช้ในการทำแปลงปลูก ไม่ว่าจะเป็นค่าปุ๋ย ค่ายาปราบศัตรูพืช เป็นต้น
          2.ผลผลิตที่ผลิตได้ ต้องมีมากขึ้น
          3.คุณภาพของผลผลิต ต้องมีคุณภาพ
  นี้ตั้งหากที่เราทุกๆๆคนสามารถทำได้     
          ซึ่งทั้ง 3 ข้อนี้  และความศรัทธาจะทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จ และสร้างความร่ำรวย มั่งคั่ง กับการทำเกษตรที่ท่านรักหรือที่ท่านชอบ...........

.           16-10-2014     

         สุดท้ายมันมาแล้วจริงๆๆ
เชื้อราที่ผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งกลัว  เนื่องด้วยผลการวิเคราะห์ภาควิชาโรคพืช คณะเกษตร กำแพงแสน คลินิคสุขภาพพืช  วันที่  22-09-2014  กับผลวิเคราะห์   เลขที่ SN0003284  แจ้งผลว่า พบเชื้อรา         Phomopsis  asparagi
        Fusarium    sp.
        Rhizoctonia sp.
:ซึ่งพบในต้น ใบ และมากที่สุดบริเวณเหง้าของหน่อไม้ฝรั่ง  เป็นผลให้หน่อไม้ฝรั่งไม่มีผลผลิต ถ้ามีก็มีน้อยเก็บเกี่ยวได้ไม่นาน  บางรายเก็บผลผลิตได้ไม่ถึง 10 วัน  บางรายไม่ได้เก็บเลย( พักยาว ) ,
มีแต่รายจ่าย แต่ที่น่าเสียใจกับผู้ที่ต้องรักษาโดยใช้ผาล 3 หรือ ผาล 7  โดยในจังหวัด เพชรบูรณ์มีการรักษาโดยวิธีนี้ (ไถ ) มากกว่า 150 ไร่แล้วยังไม่มีหน่วยงานใดลงไปดูแล  แต่เกษตรกรที่ทำตามคำแนะนำของเรากลับเก็บผลผลิตได้ตามปกติ  และจังหวัดโคราชก็ไม่น้อยหน้าก็ (ไถ ) ทิ้งเช่นเดียวกันโดยเฉพาะบริเวณ อ. เสิงสาง ไถทิ้งไปมากกว่า500 ไร่ไปแล้ว และยังมีการไถทิ้งอยู่เนื่องๆ  สาเหตุหลักเกิดจากตัวของเกษตรกรเองที่เกิดความมักง่าย โดยเวลาพักแปลงเมื่อถอนต้นแม่ ( ต้นแก่ ต้นเป็นโรค )  ออกก็ไม่เก็บออกจากแปลง แถมยังไปไว้ที่ต้นน้ำเวลาฝนตกน้ำฝนก็พาสปอร์กลับมาที่แปลงอีก  เวลาให้น้ำก็ให้น้ำเหมือนจะดำนาซะงั้น แค่นั้นยังไม่พอยังใส่ปุ๋ยอย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งมีอาการติดเชื้อราอยู่ก็ยิ่งใส่จึงทำให้การระบาดของเชื้อเร็วขึ้น  เปรียบเสมือนผู้ที่เป็นมะเร็ง หมอจะห้ามผู้ป่วยกินเนื้อสัตว์ เพราะจะทำให้เชื้อมะเร็งรามไวขึ้นฉันใดก็ฉันนั้น  ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากในเวลาน็อค (เชื้อรา ) ต้องหยุดใส่ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์
     โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็เป็นโอกาสทองของเกษตรกรที่มีหน่อไม้ฝรั่งให้เก็บ เพราะราคาหน่อไม้ฝรั่งปรับราคาขึ้นแบบหุ้นเลยทีเดียว จากราคาเพียง kg ละ 60 บาท ปรับขึ้นๆลงๆ จนวันนี้ 16-10-14 ราคามาจ่อที่ 170 บาทแล้วใครมีหน่อเก็บก็ยิ้ม.... ฮาฮา...........  ขอให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาต้องรีบแก้ไขด่วน มีข่าวในวงในผู้รับซื้อหน่อไม้ฝรั่งใน จ.เพชรบูรณ์ เริ่มถอนสมอเรือ แล้วหันหัวเรือมุ่งหน้าไปอิสานตอนบน และประเทศเพื่อนบ้าน และหันหลังกลับไปฟื้นฟูแผ่นดินภาคกลางที่จากมานานแล้ว โดยการร่วมมือกันระหว่างผู้รับซื้อ  มหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์  นักวิชาการ ตัวของเกษตรกรเอง โดย  MK ก็ลงไปช่วยอีกแรงเพราะ  พืชนี้พ่อหลวงตั้งชื่อเป็นพืชมหัศรรย์ พืชที่สามารถให้ความเป็น  ไท  ให้คนไทยปลดหนี้ได้
               โดย MK การเกษตร จำกัด  
             TEL.   046-0335 ,085-603-0090   (เอ็ม )  แล้วพบกันครับ
     โอกาสทองของคนเพชรบูรณ์ก็กลับมาอีกครั้งในปีนี้ เป็นปีที่ 2 ที่ราคา
หน่อไม้ฝรั่งมีราคาแตะ Kg.ละ 200บาท โดยราคาkg. ละ 200 บาท เริ่มในเมื่ออากาศเริ่มเย็น / 25-11-2014 โดยมีแนวโนมราคาอาจขยับขึ้นอีกเพราะแสดงให้เห็นว่าความต้องการของตลาดหน่อไม้ฝรั่งมีสูง และการระบาดของโรคหลังจากฝนหยุดตก
      ดังนั้นผู้ที่ได้พบบทความนี้อย่ารอช้าจงศึกษาและลงมือเพาะปลูกพืชมหัศจรรย์นี้ เพื่อปลดหนี้และสร้างความเป็นไท ... ให้กับตัวเองและครอบครัวที่เรารัก แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าพืชชนิดนี้ ต้องปลูกกันเป็นกลุ่มและมีจำนวณมากพอที่ผู้ส่งออกสามารถส่งคนไปรับและส่งเสริมเพื่มเติมได้ และสิ่งที่ขอฝากไว้อีกอย่างหนึ่งของผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งไม่สามารถหนี้พ้น คือจุดรวบรวมสินค้า (หน่อ)  ที่ทำให้สมาชิกเกิดการแตกแยก ทะเลาะกันเอง แบ่งพักแบ่งพวก เพราะไปมองเห็นเศษเงินที่ผู้ส่งออกแบ่งปันค่าเหนื่อยให้ใช้จ่ายทั้งพนังงาน QC.การจัดการต่างๆแทนก่อนจะส่งพนังงานมารับ แต่ถ้ามีเพียงบริษัทเดียวก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีมากกว่า 1 บริษัท ก็จะเกิดปัญหาเกิดการแบ่งหน่อ เกิดการแบ่งจุด แต่ผู้ปลูกไม่ได้เพิ่มขึ้นตามผู้ซื้ออย่างฉับพลัน ต้องใช้เวลาการเพาะปลูก จึงจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่ผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่งต้องรักกัน ช่วยกันขาย ช่วยกันดูแลกัน ใครมีอะไรดีๆ ก็ต้องบอกกัน อย่าเหมือนคนเพชรบรูณ์มีอะไรก็ปิดบังกันกลัวคนอื่นจะได้ดีกว่า ได้เงินมากกว่า  สุดท้ายถ้าทุกคนล่มสลายเหลือเพียงตนคนเดียวแล้วใครจะมาซื้อ เพราะเมื่อผู้ซื้อมองแล้วไม่คุ้มค่าใช้จ่าย เขาก็ถอย ไม่ซื้อ แล้วคุณจะขายให้ใคร น่าคิดนะ .............

23-2-2015 
  ความล่มสลายก็มาเยือนคนเพชรบูรณ์เข้าจนได้ จากราคาที่สูงๆ ราคาหลักร้อย ถอยลงมาเหลือแค่หลักสิบ  กับราคายอดฮิต 3 โล 100  แล้วต่อด้วย 5 โล 100 อย่างทั่วถึงทั้งจังหวัด เพราะความอยากได้(ความโลภ) และการไม่รวมตัวของตัวเกษตรกรผู้ปลูก ซึ่งต่างกับภาคกลางใน 3 จังหวัด คือ นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี ที่มีการรวมตัว มีกลุ่มมีสมาชิกที่เดินไปในทิศทางเดียวกันไม่แตกแถว  และที่ภาคภูมิใจ คือ...
  ทำให้กลุ่มหนองงูเหลือม ขายหน่อไม้ฝรั่งผ่าฤดูฝนได้ เก็บผลผลิตติดต่อกันได้มากกว่า 12  วีค โดยต้นหน่อไม้ฝรั่งยังเขียวสดอยู่ และต้นทุนการใช้ปุ๋ย ลดลงมากกว่า ครึ่ง และสิ่งที่ไม่เคยได้รับ มากว่า 20 ปี  คือได้รับค่าตอบแทนในการขายหน่อไม้ฝรั่ง มากกว่า 1000 บาท ต่อวัน
ซึ่งเกษตรกร ท่านใด อยากพูดคุย สามารถ โทรปรึกษาพี่เขาได้ที่  Tel. 089-236-3934 คุณพี่ ตรีเนตร
      และภาระกิจต่อไปที่ต้องรีบแก้ไข คือ อ. ด่านมะขามเตี้ย  ซึ่งแปลงต้นแบบที่เริ่มให้ผลผลิตได้แล้วจากไม่มีผลผลิต คือแปลงของคุณ ทนง กาหลง Tel. 081-378-6402  ประธานชมรมผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งเป็นแปลงต้นพันธุ์จากเนื้อเยื่อ ซึ่งรวมทั้ง 3 จังหวัด มีต้นเนื้อเยื่อรวมกันมากกว่า 20 ไร่ ที่หน่วยงานรัฐส่งเสริมแบบให้เปล่า   
   9-12 -15 
ผลผลิตปีนี้ของจังหวัดต่างๆไม่ว่า จังหวัดเพชรบูรณ์ นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี และน้องใหม่ ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก ลพบุรี 
      มีผลผลิตลดลงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบแปลงต่อแปลง และบางแปลงก็แทบจะไม่ได้เก็บหรือได้เก็บก็เก็บได้น้อยมาก เพราะมีการระบาดของโรคเชื้อราค่อนข้างรุนแรง เกษตรกรบางรายขอยอมแพ้ ถอดใจก็รักษาโดยการไถทิ้งไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ซึ่งในปีนี้ที่ อำเภอเสิงสางมีการปลูกหน่อไม้ฝรั่งที่เคยมีพื้นที่การปลูกอย่างมากก็หล้มสลาย พื้นที่ถูกปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชผัก ชนิดอื่นไม่ว่าจะเป็นผักใบ หอมกะเทียมหรือพืชชนิดอื่นๆแต่ก็มีเกษตรกรหลายรายพยายามหาทางแก้ไข ไม่ยอมแพ้ ทำทุกวิถีทาง เริ่มมีการจับกลุ่มกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันโดยมีการใช้ระบบ  IT สร้างกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหา หาทางช่วยเหลือกันให้กำลังใจกัน เป็นภาพที่ดีมาก เพราะการปลูกพืชชนิดนี้ต้องจับกลุ่มกันและต้องจับกลุ่มกันให้เหนียวแน่น เพราะผลผลิตส่วนใหญ่เน้นเพื่อการส่งออก ถ้าเราไม่ช่วยเหลือกันแล้วแปลงของเพื่อนๆเกษตรกรไม่สามารถรอดพ้นจากโรคได้ เหลือแปลงของเราคนเดียวแล้วผู้ซื้อหรือผู้รวบรวมจะซื้อผลผลิตเราหรือ